“เอราวัณ ที รูม “นำเสนอชุดน้ำชายามบ่ายแบบไทย รังสรรค์จากวัตถุดิบออร์แกนิก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ห้องอาหาร เอราวัณ ที รูม นำเสนอชุดน้ำชายามบ่ายแบบไทย รังสรรค์จากวัตถุดิบออร์แกนิก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สานต่อความนิยมจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – วันที่ 4 กรกฎาคม 2566: ห้องอาหาร เอราวัณ ที รูม ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ หนึ่งในห้องอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและต่างชาติ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และสานต่อตำนานแห่งชุดน้ำชายามบ่ายแบบไทย คัดสรรเมนูเด่นทั้งคาวหวานเพื่อให้ทุกท่านได้ลิ้มลองรสชาติระดับพรีเมียม รังสรรค์จากวัตถุดิบออร์แกนิก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์และสัมผัสรสชาติของอาหารไทยต้นตำรับแท้ ๆ อย่างแท้จริง ในบรรยากาศดี ๆ พร้อมชมวิวศาลท้าวมหาพรหม สถานที่ศักดิ์สิทธิซึ่งรู้จักไปทั่วโลก ให้บริการตั้งแต่เวลา 14.30 น. – 17.30 น. ในราคา 680++ บาท/ท่าน

ห้องอาหาร เอราวัณ ที รูม เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นสถานที่หลบหลีกความจอแจของกรุงเทพฯ ยามบ่าย หรือเพื่อพบปะเพื่อนฝูงและเลือกมาลิ้มลองชุดน้ำชายามบ่ายแบบไทยกันในบรรยากาศสบาย ๆ ร้านตกแต่งแบบเรียบหรู มีมุมให้ทุกท่านได้เลือกนั่งตามอัธยาศัยพร้อมแสงธรรมชาติจากด้านนอกที่ช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวยได้เป็นอย่างดี ในเซ็ตประกอบด้วยอาหารทั้งคาวและหวานที่คัดสรรมาจากแต่ละความอร่อยที่อยู่ในเมนู อาทิ ช่อม่วงปู สีม่วงธรรมชาติได้จากดอกอัญชัน ห่อพันไส้ปูปรุงรสที่ซ่อนอยู่ด้านในได้อย่างมิดชิด พร้อมกลีบที่ทีมครัวบรรจงขลิบอย่างประณีต หรือจะเป็น เมี่ยงคำน้ำตาลโตนด ใช้ความหวานจากน้ำตาลออร์แกนิก ตัดกับความเปรี้ยวของส้มแขก เสริมรสสัมผัสด้วยมะพร้าวคั่วใหม่ และถั่วลายเสือ ปอเปี๊ยะกุ้ง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยโฮมเมด และหมูสะเต๊ะ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มรสชาติเข้มข้น

ส่วนเมนูของหวานที่อยู่ในเซ็ตก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เสิร์ฟทั้งขนมไทยที่คุ้นเคย และขนมแบบตะวันตกที่ใส่แรงบันดาลใจแบบไทยเข้าไปอย่างเต็มเปี่ยม อาทิ สาคูน้ำกะทิ ทำจากสาคูแท้ที่ผลิตในจังหวัดพัทลุง เสริมความหวานกำลังดีด้วยน้ำตาลมะพร้าว และท้อปด้วยมะตูมเชื่อมโฮมเมด ขนมหม้อแกงเผือก รสละมุนลิ้น และมีซอส
คาราเมลราดอยู่ด้านบนเพิ่มความชุ่มฉ่ำ สโคนสับปะรด เสิร์ฟพร้อมครีมที่ใส่ใบมะกรูดลงไป พานาคอตต้ารสลำไยและน้ำผึ้ง มาการองรสมะพร้าวและผักชี ทาร์ต
เมอร์แร็งท้อปด้วยใบโหระพา ท่านยังสามารถเลือกชาหรือกาแฟเพื่อดื่มคู่กับเซ็ตน้ำยามบ่ายนี้ โดย เอราวัณ ที รูม ได้คัดสรรใบชาคุณภาพเยี่ยม และเมล็ดกาแฟชั้นเลิศมาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับทุกท่านแล้ว

สำหรับท่านที่ต้องการลิ้มลองอาหารไทยจากเมนูมื้อกลางวันและมื้อเย็น ก็สามารถสั่งมารับประทานได้เช่นกัน เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด อาทิ แกงปูใบชะพลู เชฟจะขึ้นเครื่องแกงเองเพื่อรสชาติที่เข้มข้นและความสดใหม่ ใช้เนื้อปูทะเลเกรดพรีเมียมจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กลิ่นหอมของน้ำปลาตราสามกระต่ายที่ผลิตในจังหวัดตราด ตัดรสด้วยน้ำตาลมะพร้าวจากจังหวัดเพชรบุรี และเพิ่มรสสัมผัสพิเศษด้วยเห็ดแครง หรือจะเป็นเมนู ฉู่ฉี่กุ้งลายเสือ ที่นำเข้ากุ้งจากจังหวัดระนอง เมนู ผัดไหลบัวกะปิกุ้งสด เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิกลิ่นกรุ่นที่ปลูกในจังหวัดยโสธร ที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งเมนูก็คือ ต้มข่าไก่ใบมะขาม รสชาติกลมล่อม

หนึ่งในผู้มีส่วนสำคัญต่อการรังสรรค์อาหารและอยู่เบื้องหลังความอร่อยในทุกจานของ เอราวัณ ที รูม คือเชฟอิท – พันธุ์ธิช จินดาจิธาวัฒน์ เชฟรุ่นใหม่มากความสามารถที่หลงใหลในเสน่ห์ของอาหารไทย และยังคงรักษาภูมิปัญญาต่าง ๆ ของบรรพบุรุษเอาไว้ พร้อมสรรหาวัตถุดิบแบบออร์แกนิกเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของทุกท่านที่ได้มาเยือน เชฟอิทเกิดที่กรุงเทพฯ แต่ไปเติบโตและใช้ชีวิตในภาคอีสาน และภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึงเคยมีประสบการณ์การทำงานในภาคใต้อีกด้วย เชฟอิทยังเคยทำงานในร้านอาหารไทยดีกรีดาวมิชลิน 1 ดวงที่ประเทศเดนมาร์ก และเคยเป็นผู้ช่วยเชฟจากรายการ “เชฟกระทะเหล็ก” ที่ร้านอาหาร อิษยา สยามมิส คลับ เชฟอิทยังได้สั่งสมทักษะอีกมากมายจากห้องอาหารในโรงแรมระดับลักซ์ชูรีหลายแห่งที่เคยร่วมงานกันมา

“ผมเชื่อว่าภูมิปัญญาต่าง ๆ ที่สอดแทรกอยู่ในอาหารไทยมีความหลากหลายของวัตถุดิบเป็นหลักสำคัญ และเพื่อให้เข้าถึงรสชาติที่แท้จริงนั้น เราต้องเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตที่เหมาะสมจากทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย คุณสามารถลิ้มลองอาหารไทยแท้ได้ที่ เอราวัณ ที รูม ซึ่งบางเมนูนั้นหารับประทานได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ อยากให้ทุกท่านมั่นใจว่าเราใช้แต่วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ ออร์แกนิก และมาจากแหล่งผู้ผลิตโดยตรง” เชฟอิท กล่าว

ที่ห้องอาหาร เอราวัณ ที รูม เชฟอิทพร้อมนำเสนอประสบการณ์แบบไฟน์ไดนิ่งด้วยการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ กับความหลงใหลในอาหารไทยเพื่อยกระดับทั้งรสชาติและการนำเสนอของแต่ละเมนู เชฟมุ่งมั่นที่จะเลือกสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่มาที่ได้คุณภาพ อาทิ ข้าวจากจังหวัดยโสธร เนื้อเป็ดจากคลองไผ่ฟาร์ม เนื้อวัวจากจังหวัดสกลนคร และผักที่ได้การรับรองจากสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) เชฟยังเลือกที่จะโขลกพริกแกงเองทุกชนิด ทำซอสและเครื่องปรุงอีกสารพัดด้วยตัวเองในครัวเพื่อให้แน่ใจว่ารสชาติและความสดใหม่ของอาหารจะได้มาตรฐานในทุกจาน

ชุดน้ำชายามบ่ายแบบไทย ราคา 680++ บาท/ท่าน ให้บริการตั้งแต่เวลา 14.30 น. – 17.30 น.

ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม ตั้งอยู่ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลข 02-254-1234 และอีเมล์ bangkok.grand@hyatt.com หรือรับชมข้อมูลผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.grandhyatterawanbangkok.com

admin

Back to top
error: Content is protected !!