นิกกี้ พิ้ม ปลื้ม!! หลังลบรอยสัก สร้างความมั่นใจและดำเนินชีวิตง่ายขึ้น ที่ Dr.TATTOF ผู้นำเข้านวัตกรรมเลเซอร์ระดับโลก เจ้าแรกในไทย ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
การสักลาย คือ ศิลปะชนิดหนึ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของรอยสักนั้น ถือเป็นความชอบและรสนิยมส่วนบุคคล ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าค่านิยมในประเทศไทยมองว่าบางอาชีพไม่เหมาะกับการมีรอยสัก เช่น ก่อนเข้ารับราชการ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นักบิน หรือพยาบาล รอยสักเหล่านี้ อาจเป็นตัวปิดกั้นโอกาสในการทำงานของใครหลายคน หรือสายตาจากสังคมที่มองเราผิดไป ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานเท่านั้น ยังมีอีกหลายคนอาจเบื่อหน่าย หรือมีเหตุผลบางประการที่ทำให้อยู่ในภาวะจำยอม เพราะสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไป ทำให้อยากลบรอยสักนั้น
ลูซิเฟอร์ นิราย พลิ้ม หรือ นิกกี้ พิ้ม ศิลปินและนักแสดงชาวไทย เปิดเผยว่า “เริ่มสักตั้งแต่อายุ 16 ปี สมัยนั้นวัฒนธรรมไทยยังไม่เปิดกว้างเท่าปัจจุบัน และเราเติบโตที่ต่างประเทศ พอกลับมาไทยก็นำวัฒนธรรมการสักจากต่างประเทศเข้ามา รู้สึกว่าเราเกิดมาต้องมีรอยสัก ปัจจุบันผมสักบริเวณหน้า และลำคอ 3 จุด คือ คอด้านซ้ายทั้งแถบเป็นรูปหน้ากากสองอัน หน้าผากเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ และใต้ตาด้านขวารูปสายฟ้า”
จากหนุ่มสุดแซ่บสู่คุณพ่อเจ้าของธุรกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ทุกการตัดสินใจของเรา ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจแบบ 100% หรือคิดถึงอนาคต แต่เมื่อภรรยากำลังตั้งท้องและรู้ว่าได้ลูกสาว ทำให้อยากเป็นแบบอย่างให้กับลูก และอยากลบในสิ่งที่ไม่อยากให้ลูกทำตาม คิดว่าวันหนึ่งเขาต้องถามเราว่าหนูไปสักที่หน้าได้ไหม เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัวที่กำลังจะลืมตาดูโลก ในวันนั้นจึงตัดสินใจลบรอยสักบริเวณใบหน้าและลำคอ ตั้งแต่ลบรอยสักมาธุรกิจผมเติบโตขึ้นมาก เนื่องจากทำธุรกิจขายออนไลน์ด้วย การเข้าไปเป็นนักธุรกิจต้องไปประชุมเจอผู้ใหญ่มากขึ้น หน้าตาต้องดูน่าเชื่อถือ โหงวเฮ้งต้องมา จะเป็นผู้บริหารที่มีรอยสักที่หน้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เมื่อก่อนมีความคิดว่าคุณเอาเราไปทำงานต้องรับบุคลิกภาพของเราได้ แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น การสร้างความน่าเชื่อถือมันยากมาก พอเราไม่มีรอยสักที่หน้า ใคร ๆ ก็อยากคบหาเรา จึงทำให้ธุรกิจเริ่มโตขึ้น ตอนนี้รอยสักส่วนที่คอและใต้ตาหายไปหมดแล้ว ส่วนที่หน้าผากสักสีเหลือแค่ประมาน 5 เปอร์เซ็นต์
“Dr.TATTOF เป็นที่ที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จได้ถึงทุกวันนี้ ที่นี่เปลี่ยนชีวิตผม เขาไม่ได้ทำเพื่อธุรกิจอย่างเดียว แต่เป็นการช่วยเหลือผู้คนที่อยากลบรอยสัก หรืออยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากให้คนอื่นมองเราในภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ถ้าเกิดทำผิดพลาดไปแล้ว ก็ไม่ต้องกลัว” ลูซิเฟอร์ นิราย พลิ้ม กล่าวปิดท้าย
บางคนอาจมีความคิดว่าร่างกายของฉัน เรื่องราวของฉัน แต่ปัจจุบันเรายังอยู่ร่วมกับคนในหลายเจเนอเรชั่น หากรอยสักถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกและส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตในด้านลบ เรายังมีโอกาสลบรอยสักนั้นได้
ในสมัยก่อนการลบรอยสักดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีเลเซอร์ลบรอยสักแล้วโดย Dr.TATTOF คลินิกแรกในประเทศไทย ที่นำนวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกเข้ามา สามารถทำลายเม็ดสีได้หมด โดยที่ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ถูกออกแบบมาเพื่อลบรอยสักโดยเฉพาะ สามารถลบได้ทุกสี ไม่ว่าจะเป็นรอยสักสีดำ สีแดง สีเหลือง หรือสีเขียวสามารถลบให้หายไปได้ 100%
Dr.TATTOF ตอกย้ำคุณภาพด้วยประสบการณ์ของการเป็นผู้นำในการรักษาด้วยนวัตกรรมเลเซอร์มากว่า 8 ปี และการันตีเทคโนโลยีเครื่องเลเซอร์ด้วยมาตรฐานการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US-FDA) และประเทศไทย (THAI-FDA) ที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพระดับสากลเข้ามาให้บริการในทุกสาขา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยต่อคนไข้ รวมถึงเป็นผู้นำอันดับ 1 ของทวีปเอเชียแปซิฟิก เพราะได้รับรางวัล Best Achieve Tattoo Removal Treatment Award in Asia รางวัลด้านการลบรอยสักที่ดีที่สุดจากบริษัท Candela Medical ผู้ผลิตเลเซอร์ทางการแพทย์ ลูกค้าจึงมั่นใจได้ ว่า Dr.TATTOF คือ ผู้นำด้านเลเซอร์ลบรอยสักตัวจริง นอกจากนี้เป้าหมายต่อไปทางแบรนด์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพควบคู่ไปกับการบริการที่น่าประทับใจ พร้อมยกระดับมาตราฐานคุณภาพและบริการสู่ระดับสากล
ปัจจุบัน Dr.TATTOF มีสาขารวมทั้งสิ้น 10 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ (สาขาแรกในกรุงเทพฯ), สาขาเอท ทองหล่อ, สาขาเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, สาขาเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, สาขาเซ็นทรัลพลาซา เวสเกต, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, สาขาเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, สาขาเดอะพรอมานาด, สาขาเมกา บางนา และสาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา สำหรับผู้สนใจอยากใช้บริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Line @dr.tattof หรือโทร 090-895-2424 ช่องทางการติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นคลิกที่ https://www.facebook.com/dr.tattof หรือ เว็บไซต์ www.drtattof.com