ยลโฉม 5 คอลเลกชัน จาก ‘มิสซิส’ (MISIS) แบรนด์เครื่องประดับจากอิตาลี

 Misis ‘ The Language of Flowers” Jewelry-inspired Afternoon Tea รื่นรมย์ไปกับแฟชั่นโชว์ 
ยลโฉม 5 คอลเลกชัน จาก ‘มิสซิส’เครื่องประดับจากอิตาลี
สะท้อนความงามของมวลดอกไม้สู่งานดีไซน์สุดสร้างสรรค์

 

ที่สุดแห่งประสบการณ์ชมเครื่องประดับ และจิบน้ำชายามบ่ายสุดล้ำค่า เมื่อ“มิสซิส”(MISIS) แบรนด์เครื่องประดับชื่อดังสัญชาติอิตาลี โดย ดร. ฐิติพร สถาวรมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซตเต้ เวอร์ทู จำกัด ร่วมกับ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ จัดงาน “MISIS The Language of Flowers Afternoon Tea” เพื่อเปิดตัว 5 คอลเลกชันเครื่องประดับล่าสุดของแบรนด์ ได้แก่ Gemina, Volterra, Asolo, Everglades และ Marisol สุดยอดผลงานการออกแบบอันเหนือชั้น ที่นำแรงบันดาลใจมาจากมนต์เสน่ห์ของหมู่มวลดอกไม้มาถ่ายทอดได้อย่างจับใจ ให้ได้รื่นรมย์กับประสบการณ์ชมแฟชั่นโชว์ที่น่าจดจำและประทับใจ ในบรรยากาศจิบน้ำชายามบ่ายแสนอบอุ่นและเอกซ์คลูซีฟ ด้วยเซ็ตเมนูที่เชฟมากฝีมือจากโรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ตั้งใจรังสรรค์เมนูคาวหวานขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อร่วมถ่ายทอดความงดงามของเครื่องประดับแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลี

ภายในงานพบกับไฮไลท์สุดพิเศษ กับมินิแฟชั่นโชว์ที่ได้แบรนด์ “MeiMei Proudly Thai” มาร่วมเนรมิตชุดสวย นำผ้าไทยที่เป็นเอกลักษณ์มาปรับลุคให้เข้ากับบรรยากาศของงาน Afternoon High Tea  เพื่อนำเสนอคอลเลกชั่นของ “มิสซิส” (MISIS) ได้อย่างลงตัว

ดร.ฐิติพร สถาวรมณี (คนขวา)​และ คุณชวมนฑ์ ปวโรดม

ดร. ฐิติพร สถาวรมณี กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า “มิสซิส” (MISIS) เป็นแบรนด์เครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์การออกแบบอันโดดเด่น เต็มไปด้วยจินตนาการและไอเดียอันสดใหม่ เปี่ยมไปด้วยความทันสมัยสอดคล้องกับเทรนด์แฟชั่นในแต่ละฤดูกาล สามารถสะท้อนผ่านความงดงามจิวเวลรีคุณภาพสูงภายใต้การรังสรรค์ผลงานจากช่างฝีมือผู้มากด้วยประสบการณ์ จนกลายเป็นซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต่างจดจำ  และเป็นแบรนด์ที่เหล่าคนดังต่างเลือกสวมใส่เข้าร่วมงานระดับโลก อย่างเช่น งานแกรมมี่ อวอร์ด ณ มหานครลอสแอนเจลิส

ทั้งนี้ แรงบันดาลใจหลักในการสร้างสรรค์เครื่องประดับของแบรนด์มิสซิส ส่วนใหญ่ จะเป็นการถ่ายทอดสีสันของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แง่มุมความสุขในการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์ของหญิงสาวอันโดดเด่น จากนั้น จึงนำมาตีความตามคอนเซปต์การดีไซน์ของแต่ละคอลเลกชัน เพื่อรังสรรค์สีสันของจิวเวลรีอันแสนงดงามที่แฝงไว้ซึ่งนัยยะอันแยบยล สามารถสะท้อนตัวตนของหญิงสาวผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

“ในคอลเลกชันล่าสุด ทางแบรนด์เลือกนำแรงบันดาลใจจากดอกไม้ถึง 5 ชนิด มาถ่ายทอดในรูปแบบเครื่องประดับได้อย่างน่าสนใจ เพราะนอกจากจะเลือกนำสีสันที่แตกต่างของดอกไม้แต่ละชนิดมาเป็นไอเดีย ยังลงรายละเอียดไปถึงรูปทรงและความหมายที่ซ่อนไว้ภายใต้ของความงามของดอกไม้แต่ละชนิดมานำเสนอได้อย่างสง่างามและน่าสนใจ ดังนั้น เพื่อยกระดับการถ่ายทอดงานดีไซน์ที่สวยงาม ให้ยิ่งชวนน่าหลงใหลไปอีกขั้น เราจึงตั้งใจนำเสนอ 5 คอลเลกชันใหม่ ในรูปแบบที่แตกต่างจากงานแฟชั่นโชว์เครื่องประดับทั่วไป ด้วยการนำประสบการณ์ชมแฟชั่นโชว์มาผสมผสานกับการจิบน้ำชายามบ่าย ที่นอกจากความพิเศษของโชว์ที่นำความงามของผ้าไทย มาเป็นอีกกิมมิกในการนำเสนอความงามของเครื่องประดับ เราหยิบเอาเอกลักษณ์และความโดดเด่นของดอกไม้จากเครื่องประดับทั้ง 5 คอลเลกชัน มาสร้างสรรค์เซ็ตน้ำชายามบ่าย อย่าง The Language of Flowers Afternoon Tea ให้ได้ชิมและยลโฉมเครื่องประดับไปพร้อมๆ กัน”

สำหรับคอลเลกชั่นใหม่ของ “มิสซิส” ที่เปิดตัวในครั้งนี้ และยังเป็นคอนเซปต์ในการสร้างสรรค์ชุดน้ำชาสุดพิเศษนั้น ประกอบไปด้วย 5 คอลเลกชั่น ได้แก่

คอลเลกชัน Gemina (เจ-มี-น่า) ถ่ายทอดความงดงามประณีตของดอกไอริสสีม่วงที่บานสะพรั่ง ประดับเข้ากับหินสีฟ้าหรือดำบนเพทายที่ขาวนวลและตัวเรือนเงินชุบทอง 18K ชวนให้สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและแผ่วเบา แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความหวังและการเริ่มต้น เปรียบได้กับความสงบสุขที่แผ่กิ่งก้านและความเข้มแข็งที่เป็นหนึ่งเดียว เพื่อถ่ายทอดความงามของดอกไอริส โดยคอลเลกชันเครื่องประดับ Gemina จะถูกรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับบนเอนาเมลสีม่วง สำหรับสร้อยข้อมือทำจากโอนิกซ์สีดำสนิทและอาเกตบนสายสร้อยแสนโดดเด่น ในขณะที่ต่างหู สร้อยคอ แหวนและเข็มกลัดนั้นก็ต่างมอบเสน่ห์ที่สุขุมนุ่มลึกให้ผู้ที่สวมใส่เช่นกัน

ความสง่างามของเครื่องประดับคอลเลกชันนี้ ได้รับการรังสรรค์ให้เป็นเมนูชั้นเลิศของ “The Language of Flowers Afternoon Tea” คือ เมนูสลัดอกเป็ดบีตรูตซอสเบอร์รี รสชาติกลมกล่อม ตกแต่งด้วยดอกไม้สีม่วงสีสันสดใสเหมือนดอกไอริส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ ความรัก ความศรัทธาและมิตรภาพ หรือหมายถึงเทพีไอรีส เทพีแห่งสายรุ้ง

ถัดมาคือ คอลเลกชัน Volterra (โบล-เตร์-ร่า) ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับ  Volterra เมืองประวัติศาสตร์แห่งแคว้นทัสคานี ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีบนยอดเขาในเมืองปิซ่า ทิวทัศน์ที่งดงามไปด้วยสีชมพูจากกลีบดอกป๊อปปี้อันอ่อนโยนบางเบาหลุดปลิวว่อน แต่งแต้มสีสันให้กับเส้นขอบฟ้าของดินแดนอันเงียบสงบนี้ ทำให้นักเดินทางต่างหลงใหล ไปกับการดื่มด่ำความงามของสถานที่สุดวิเศษอันกว้างใหญ่และเงียบสงบ ในคอลเลกชันนี้ จึงเลือกสะท้อนความงามของเครื่องประดับในรูปทรงดอกป๊อปปี้ บนตัวเรือนสเตอร์ลิ่งซิลเวอร์ชุบทองประดับ Zircon และ Onyx สีดำสนิท พร้อมเทคนิคเคลือบสีลงยา ที่ดูโดดเด่น ไม่ว่าจะอยู่บนปกคอ สร้อยข้อมือ ต่างหูและจี้ ที่ต่างเสริมกันละกันพร้อมยกระดับให้ทั้งคอลเลกชันยิ่งน่าดึงดูด สามารถเป็นอีกไอเทมที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับช่วงซัมเมอร์

ความพิเศษของคอลเลกชันนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนู มินิทาร์ตปลาฮามาจิพร้อมซอสพอนซุและแรดิช รสละมุน ที่บรรจงสร้างสรรค์ออกมาให้คล้ายดอกป๊อปปี้  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดอกไม้แห่งความสงบและการปลอบโยน เป็นดอกไม้โปรดของดีมีเธอร์ เทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเกษตร

คอลเลกชันถัดมา คือ Asolo (อา-โซ-โล) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากทิวทัศน์อันสวยงามของเมือง Asolo ทางตอนเหนือของอิตาลี ที่เต็มไปด้วยแนวเนินเขาสีเขียวชอุ่มทอดยาวขนานไปกับเส้นขอบฟ้า ประสานกลมกลืนไปกับแมกไม้ที่กำลังผลิดอกออกผลเรียงรายอยู่ริมถนนอันสงบและอบอุ่นด้วยแสงจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่อง ชวนให้จินตนาการถึงบรรยากาศแสนพิเศษ สวยสง่าด้วยเครื่องประดับที่ตกแต่งรูปทรงดอกท้อสีชมพูแย้มกลีบบานสะพรั่ง เพิ่มความโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยตัวเรือนสีทองหรูหราชวนให้สะดุดตาแต่แฝงไว้ซึ่งความงดงามอ่อนโยนตามแบบฉบับหญิงสาว พร้อมรังสรรค์ลวดลายพริ้วไหวของกิ่งก้านอย่างละเอียดประณีต ดีไซน์เหล่านี้ปรากฎในรูปแบบของปกคอ แหวน ต่างหูและกำไลข้อมือเข้าชุด ให้ความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ชวนให้หลงใหลไปกับเสน่ห์แสนดึงดูดกลิ่นอายแห่งอิตาลี

ที่น่าสนใจ คือ จุดเด่นของคอลเลกชั่นนี้ได้ถูกหยิบยกมาสร้างสรรค์เป็นเมนู มูสพีชและเชอร์รีตกแต่งด้วยซากุระด้านบน ที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนเมื่อได้ลิ้มลอง

ต่อมาที่คอลเลกชัน  Everglades (เอ-เวอร์-เกลดส์) ถ่ายทอดผ่านดีไซน์ใบปาล์มเคนเทียสีเขียวเข้ม เชิดชูความบริสุทธิ์ของดอกลีลาวดีอันละเอียดอ่อน ประกอบกันในรูปแบบของต่างหู และสร้อยคอได้อย่างละเอียดอ่อนบนตัวเรือนเงินชุบทอง 18K ทั้งหมดนี้ชวนให้นึกถึงป่าที่ไม่ปนเปื้อน พืชพรรณเขียวชอุ่ม และสัตว์ป่า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่จะได้เห็นงานดีไซน์รูปจระเข้ในคอลเลกชันนี้ เพราะเป็นถิ่นอาศัยที่สมบูรณ์แบบของโอเอซิสที่เฟื่องฟูซึ่งฟื้นคืนธรรมชาติดั้งเดิมให้กับโลก ประดับด้วยพลอย หินอาเกตและควอตซ์เล่นกับงานลงยาเฉดสีขาว ชมพู และเหลือง สื่อถึงความสงบและความสุข ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ความสุขและความพิเศษได้จากอัญมณีนี้ พร้อมเติมเต็มลุคให้หญิงสาวมั่นใจในทุกโอกาส

โดยคอนเซปต์ของคอลเลกชันนี้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเมนูของหวาน อย่างชูวานิลลาแอปเปิ้ลเขียว (Green Apple and Vanilla Choux) ที่นำแรงบันดาลใจจากเครื่องประดับดอกพุด (Tiaré) ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมรัญจวนที่เรียกว่า “กลิ่นแห่งสรวงสวรรค์” และเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามและความเย้ายวนมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจและน่าลิ้มลอง

ปิดท้ายด้วยคอลเลกชัน Marisol สะท้อนรูปแบบการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมรายละเอียดของชิ้นงานตัวเรือนเงินสเตอร์ลิงชุบทองซึ่งสร้างสรรค์ลวดลายแปลกใหม่โดดเด่นเหนือใคร ประหนึ่งอยู่ในห้วงจินตนาการที่มีมนต์ขลัง ประดับตกแต่งด้วยอัญมณีโทนสีธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวสบายตาจากหยก สีชมพูสดใสจากพิงก์ควอทซ์ และไวท์ อเกตสีขาวนวล (White Agate)  เพิ่มความหรูหราระยิบระยับด้วยคิวบิค เซอร์โคเนียสีขาว (White Cubic Zirconia) ในคอลเลกชันนี้ยังโดดเด่นด้วยการถ่ายทอดลวดลายอันอ่อนช้อยสวยงามที่ดัดแปลงจากเถาใบของหมู่ไม้ที่พันเกี่ยวกัน ส่วนแรงบันดาลใจจากธรรมชาตินี้ยังถูกถ่ายทอดผ่านรูปทรงดอกไม้สุดโดดเด่นและนกไนติงเกลแสนน่ารักอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ Marisol เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่เปี่ยมเสน่ห์อ่อนหวานชวนหลงใหลให้ทุกครั้งที่สวมใส่

ในส่วนของเซ็ตเมนู ได้หยิบเอกลักษณ์ของดอกกล้วยไม้ ความงามอันละเมียดละไม สื่อแทนความสมบูรณ์แบบ ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา และความเคารพ มาถ่ายทอดลงบนบลูเบอร์รีชีสทาร์ต

สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำค่าจากเครื่องประดับแบรนด์ “มิสซิส” พร้อมร่วมลิ้มรสชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษ “The Language of Flowers” ได้แล้ววันนี้ในราคาเซตละ 1,800 บาท++ รวมชาหรือกาแฟ สำหรับ 2 ท่าน ที่โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ บริเวณ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ และเดอะ ดรอว์อิ้งรูม ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ในเวลา 14.00 น. – 17.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2565

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง ติดต่อเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ โทร 02 207 7777 หรืออีเมล fb.bangkok@stregis.com สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า “มิสซิส” (MISIS)  ติดต่อที่ LINE @SETTE หรือติดตามผ่านอินสตาแกม @misis_th 

#StRegisBangkokxmiSiS #misisafternoontea

 

admin

Back to top
error: Content is protected !!