“รอยัลส์ คัพ 2565” หนึ่งในสนามที่แข็งแกร่งที่สุดของปี
(กรุงเทพ – 18 กุมภาพันธ์ 2565) – คิม จูฮยุง โปรเกาหลีใต้ นักกอล์ฟมือหนึ่งเอเชียนทัวร์คนปัจจุบัน แจ๊ส อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์อดีตมือหนึ่งเอเชียทัวร์ 2019, จอห์น คัทลิน โปรอเมริกันแชมป์เอเชียนทัวร์ 4 รายการ และชีฟ คาปูร์ แชมป์เก่าจากอินเดีย พร้อมนำทัพผู้เล่นฝีมือดีเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟรายการ รอยัลส์ คัพ ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า
สำหรับรายการนี้ซึ่งจัดโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ชิงเงินรางวัลรวม 400,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 13.2 ล้านบาท) จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นกอล์ฟรายการที่ 2 ของเอเชียนทัวร์ในฤดูกาลนี้
นอกจากนั้น สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่เพิ่งจะสร้างชื่อด้วยการคว้าแชมป์รายการ เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พชร คงวัดใหม่ ที่คว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการแรกให้กับตัวเองได้สำเร็จในการแข่งขันรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปลายปีที่แล้ว และ สกอตต์ เฮนด์ โปรออสเตรเลีย อดีตแชมป์เอเชียนทัวร์ 10 รายการ ก็ตอบรับเข้าร่วมแข่งขันรายการ รอยัลส์ คัพ ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ คิม, คัทลิน และสดมภ์ ถือเป็นนักกอล์ฟที่มีอันดับโลกสูงสุดในรายการนี้ โดยปัจจุบัน คิม อยู่ที่อันดับ 82 ตามมาด้วย คัทลิน อันดับ 150 และสดมภ์ อันดับ 153 ซึ่งจากอันดับดังกล่าวทำให้ การแข่งขันรอยัลส์ คัพ ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในประเทศไทย
การแข่งขันรายการนี้ยังไม่อนุญาตให้แฟนกอล์ฟเข้าชมในสนามเนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด–19 อย่างไรก็ตาม จะมีการถ่ายทอดสดภายในประเทศ 2 วันสุดท้ายของการแข่งขัน (26-27 กุมภาพันธ์ 2565) ระยะเวลาวันละ 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. โดยประมาณ ผ่านทางช่อง True Sport 5 (684) และเครือข่ายของ True Visions ไปทั่วประเทศ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมกว่า 20 ล้านหลังคาเรือน
ในการแข่งขันรายการนี้เมื่อปี 2017 ชีฟ คาปูร์ คว้าแชมป์ไปครอง อย่างไรก็ตาม ในครั้งนั้นให้สิทธิ์เฉพาะสมาชิกบางคนเท่านั้นได้เข้าร่วมแข่งขัน ทำให้มีสมาชิกแค่ 30 คนเท่านั้นที่ได้ลงแข่ง ซึ่งต่างจากปีนี้ที่จะเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นเกือบทั้งหมดเป็นสมาชิกของทัวร์
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดประสงค์ของรายการนี้ คือการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศกลุ่มเป้าหมายระดับเวิลด์คลาสในการเล่นกอล์ฟและให้โอกาสนักกอล์ฟอาชีพของไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ สู้กับนักกอล์ฟชื่อดังจากทั่วโลก นอกจากนั้น ยังเป็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมกอล์ฟในประเทศ และทำให้กีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศ รวมถึงการช่วยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย ที่สำคัญ รายการนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) และเป็นฉลองในโอกาสที่บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2563 อีกด้วย”
นายโช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเชียน ทัวร์ เผยว่า “การจัดการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราอย่างแน่นอน พวกเรารู้สึกดีใจที่มีโอกาสจัดการแข่งขันรายการระดับเวิลด์คลาสในประเทศไทย และก็มั่นใจว่า จะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่ากับการรอคอยหลังจากที่ต้องถูกเลื่อนเพราะโรคระบาดมาแล้ว ความร่วมมือระหว่างบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และเอเชียนทัวร์ จะช่วยยกระดับการแข่งขันรายการนี้ และดึงดูดนักกอล์ฟชื่อดัง รวมถึงแฟนกอล์ฟจากทั่วโลกได้ พวกเรารู้สึกภูมิใจว่ารายการนี้จะต้องเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ในปี 2565”
นอกเหนือจากเงินรางวัลรวม 400,000 เหรียญสหรัฐฯ แล้ว แชมป์รายการนี้ยังจะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) อีกด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลดังกล่าว
นอกจากนั้นแล้ว ยังจะมีรางวัลพิเศษให้กับนักกอล์ฟคนแรกที่ทำโฮลอินวันได้ที่ หลุมพาร์ 3 หลุมใดหลุมหนึ่ง จากจำนวนทั้งหมด 4 หลุม (หลุม 3, 5, 12 และ 16) และคนแรกที่ทำอัลบาทรอสได้ที่หลุม 9 และ 18 โดยรางวัลดังกล่าวจะเป็นรถยนต์จากหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันรายการนี้ซึ่งได้แก่ โตโยต้า (Camry 2.5 HEV Premium), มิตซูบิชิ (OUTLANDER PHEV GT-Premium), มาสด้า (MazdaCX-3), MG (ALL NEW MG5 X), อีซูซุ (Isuzu X-Series Hi-Lander 4-Door 1.9 Ddi Z A/T) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen THAIYARNYON Caravelle Touring MNC 2022)
สนามกอล์ฟ กรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี มีวิวพาโนราม่าของเทือกเขาที่สวยงามและยังมีแม่น้ำไหลผ่านสนามกอล์ฟอีกด้วย ด้วยวิวธรรมชาติอันดับงดงามดังกล่าวถือเป็นเวทีที่เหมาะสมยิ่งกับการแข่งขั้นรายการที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ สำหรับการออกแบบสนามกอล์ฟนั้นก็ยึดตามพื้นที่ธรรมชาติเดิม
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.grandprixgolfclub.com/th/